หน้าหลัก

พระพุทธบาทยอดเขาวงพระจันทร์

                                                                                      

 

           

                                                                                   พระพุทธบาทยอดเขาวงพระจันทร์

 

 

 

                                                                                                                                     นายจารุพงศ์    พลเดช

                                                                                                                                    ประธานมูลนิธิเพื่อลิงลพบุรี

                               

                                เมืองลพบุรีนั้นมีของดีมากมาย เสียดายที่คนหลายคนไม่รู้จักและไม่ได้ให้ความสำคัญ จนทำให้เกิดความไม่รู้เกิดขึ้นไปทั่ว แต่อย่างไรก็ตาม ได้มีคำกล่าวไว้ว่า สัพเพ สัตตา กัมมัสสกา กัมมะทายาทา     ...สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง เป็นผู้มีกรรมเป็นของของตน เป็นผู้รับผลของกรรมนั้น ดังนั้น หากเรารับทำแต่กรรมดี มีความรู้ที่กว้างขวาง รู้จักของดีของบ้านเมือง ช่วยกันดูแลรักษา ทำนุบำรุงให้คงอยู่สถาพรสืบไป ก็จะเป็นกรรมดีของคนคนนั้นหรือชุมชนนั้นนั้นเอง การรู้จักของดีในบ้านเมืองนอกจากที่ได้ช่วยกันรักษา และทำนุบำรุงให้เจริญรุ่งเรืองสืบไปแล้ว ยังทำให้ได้รู้จักรากเหง้าของตนเอง ในอันที่จะนำมาซึ่งความภาคภูมิใจ มาสู่ตนเองและชุมชน                                                                                                                                                              

                                ผมเองได้มีโอกาสได้พำนักอาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงกับเขาวงพระจันทร์ อำเภอโคกสำโรง มาชั่วระยะเวลาหนึ่ง ตื่นขึ้นมาก็ได้เห็นเขาวงพระจันทร์ทุกวัน และทุกวันพระที่ผมจะสวดมนต์ตอนประมาณหนึ่งทุ่ม ของทุกวันพระนั้น  จะได้เห็นเสียงไฟบนยอดเขาวงพระจันทร์สว่างไสวไปทั่ว ซึ่งเป็นแสงสว่างของไฟฟ้าที่ทางวัดได้เปิดตามเส้นทางขึ้นไปบนเขาวงพระจันทร์ ทุกวันพระ ก่อนการสวดมนต์ของผมเสมอ ทำให้สนใจอยากรู้ว่าบนยอดเขาสูงนั้น มีอะไรเป็นเครื่องดึงดูดใจให้คนเดินทางขึ้นไปบนยอดภูเขาสูงนั้นอย่างต่อเนือง ตลอดเวลา อยู่มาวันหนึ่ง ก็ได้มีโอกาสอ่านหนังสือของหลวงปู่ฟัก (พระครูสมถ วิกรม) แห่งวัดเขาวงพระจันทร์ จึงขออนุญาตนำมาเล่าต่อโดยย่อ เพื่อให้เนื้อความได้รับการบันทึกไว้ในระบบอินเตอร์เน็ต เผยแพร่ไปทั่วโลก และจะได้บันทึกไว้เป็นหลักฐานให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและทราบความเป็นมาสืบไป ท่านได้เล่าให้ญาติโยมฟังถึงความเป็นมาของพระพุทธบาทบนยอดเขาวงพระจันทร์ไว้อย่างน่าฟัง ว่าท่านได้รับทราบจากการถ่ายทอดของพระคุณเจ้ารูปหนึ่ง ในปี พ.ศ. ๒๔๙๖  ที่ได้นำศิษย์หลายคนมาขึ้นเขาวงพระจันทร์ และท่านได้พบและสนทนาด้วย พระคุณเจ้ารูปนั้น ได้เล่าให้ท่านฟังว่า

 

ความเป็นมา

                                เมื่อสมัยพุทธกาล มีพ่อค้าคนหนึ่งชอบค้าขายไปในต่างแดน และชอบเดินทางโดยทางเรืออยู่เป็นประจำ ในคราวหนึ่งได้จัดสิ่งของลงเรือเพื่อไปทำการค้าขายตามปกติ เมื่ออกเรือแล้ว ปรากฏว่าเรือเดินทางผิดทิศไปเจอเกาะเข้าเกาะหนึ่ง จึงแวะขึ้นไปบนเกาะ ไม่พบผู้ใดเลย  เห็นแต่ต้นไม้จันทน์หอมเต็มไปหมดทั้งเกาะ เมื่อเห็นดังนั้น จึงเกิดความคิดว่า

                                ไม้ จันทน์ นี้ มีราคาขายสูงกว่าสินค้าของเราที่ขนมาเสียอีก จำเราจะขนเอาสินค้าของเราลงไว้บนเกาะนี้ให้หมดแล้วตัดเอาไม้จันทน์ลงแทน แล้วนำเรือกลับไปบ้าน คงได้กำไรอย่างงาม

                                เมื่อคิดได้ดังนั้น  จึงได้ดำเนินการตามความคิดของตนเองจนแล้วเสร็จ ก็ออกเรือเดินทางมุ่งกลับบ้านด้วยความดีใจ แต่การณ์หาเป็นเช่นนั้นไม่  บนเกาะกลับมีปีศาจอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก  พากันโกรธไม่พอใจที่มีคนมาตัดเอาไม้จันทน์ไปโดยไม่บอกกล่าว ตัดเอาตามอำเภอใจ จึงพากันติดตามเรือไปแล้วกระทำฤทธิ์ให้เกิดคลื่นลม เพื่อให้เรือล่ม คนจะได้เป็นผีเฝ้าทะเลไปเสีย  พ่อค้าผู้เป็นเจ้าของเรือ เมื่อเห็นปรากฏการณ์พายุเกิดขึ้น  ก็มีความตกใจมาก คิดว่า ตนเองต้องมาเสียชีวิตเป็นที่แน่นอน ทำให้พ่อค้าคนนั้นได้ระลึกถึงพี่ชายของตนเองที่เป็นพระ เพื่อขอความช่วยเหลือ และสัญญาว่าหากรอดไปได้ จะถวายทุกสิ่งทุกอย่างตามที่ต้องการ เมื่อพระผู้เป็นพี่ชายได้รับทราบ ทาง ญาณ แล้ว ก็ได้มาปรากฏกายให้ปีศาจทั้งหลายได้เห็น แล้วเจรจาชี้แจง ปรับความเข้าใจกับเหล่าปีศาจ จนเป็นที่เข้าใจ จึงพากันกลับไปเกาะจนหมดสิ้น คลื่นลมก็สงบลง พ่อค้าก็สามารถนำเรือกลับไปถึงบ้านของตนเองด้วยความปลอดภัย  เมื่อกลับไปถึงบ้านก็เข้าไปกราบพระพี่ชายแล้วแจ้งให้ทราบ พระพี่ชายจึงขอไม้จันทน์ทั้งหมดไว้ โดยให้น้องชายนำไปสร้างเป็นปราสาทไม้จันทน์หอม เพื่อถวายพระสัมมา สัม พุทธเจ้า เป็นที่ประทับ  เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ก็นำความไปกราบทูลเชิญเสด็จ  ในระหว่างทางที่เสด็จไปยังปราสาทนั้น ได้เสด็จผ่านเขานางพระจันทร์ ซึ่งเป็นที่อยู่ของสัจ จ พรรณฤาษี จึงทรงแวะโปรดสัจ จ พรรณฤาษี ให้มีสติระลึกชอบด้วยสัมมาทิฐิ แล้วเสด็จต่อไปยังปราสาทไม้จันทน์ที่พ่อค้านั้นสร้างถวาย ซึ่งสัจ จ พรรณฤๅษีก็ตามเสด็จไปด้วย หลังจากเสร็จภารกิจแล้ว  พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เสด็จกลับ โดยมีฤๅษีสัจ จ พรรณตามไปด้วย เมื่อมาถึงเขานางพระจันทร์ พระองค์ทรงตรัสให้ฤๅษีพำนักอยู่ที่เขานางพระจันทร์ต่อไป ไม่ต้องตามเสด็จพระองค์  ฤาษีสัจจพรรณจึงขออาราธนาให้พระองค์ได้เสด็จประทับรอยฝ่าพระบาทไว้บนยอดเขา เมื่อตนรำลึกถึงพระพุทธองค์จะได้กราบไหว้สักการะ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงได้เสด็จลงและผินพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออกแล้วแยกพระบาทเหยียบลงบนก้อนหินที่สูงที่สุดของเขานางพระจันทร์นี้ ปรากฏเป็นรอยพระพุทธบาท ที่ได้เห็นอยู่จนทุกวันนี้ มีขนาดพระบาทยาว  ๑.๖๒ ๑/๒ เมตร  ความกว้างตรงส่วนกลาง กว้าง ๖๒ เซนติเมตร (ภูเขานางพระจันทร์ ต่อมาภายหลังเรียกว่า ภูเขาวงพระจันทร์)

 

                                พระพุทธบาทยอดเขาวงพระจันทร์นั้น เป็นพระพุทธบาทที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก ได้มีการบอกเล่าต่อกันมาทุกยุคทุกสมัย จึงขอบอกไปยังทุกท่านที่ได้อ่านบทความนี้ สมควรได้หาโอกาสไปกราบสักการะสักครั้งหนึ่งในชีวิต เพื่อเป็น ศิ ริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว และพิสูจน์ความเข็มแข็งของร่างกายและจิตใจด้วย....

...